นอกจากนี้
โดพามีนยังจัดเป็นนิวโรฮอร์โมน (Neurohormone) ที่หลั่งจากสมองส่วนไฮโปธาลามัส
ซึ่งทำหน้าที่ยับยั้งการหลั่งโปรแลคตินจากกลีบส่วนหน้าของต่อมใต้สมอง
(ต่อมพิทูอิทารี) พร้อมกับเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต (Growth
Hormone) ซึ่งเป็นพัฒนาการสำคัญของคนกำลังเป็นหนุ่มเป็นสาวนั่นเอง
เมื่อโดพามีนถูกหลั่งออกมาแล้วจะทำให้เรารู้สึกตื่นตัว
กระฉับกระเฉง มีสมาธิ และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น
ยิ่งมีการหลั่งสารนี้มากเท่าไร คนนั้นก็จะมีความพอใจหรือมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนั้นแล้ว
เจ้าสารสื่อประสาทตัวนี้จะช่วยให้เรารู้สึกมีความพึงพอใจ เกิดความรักใคร่ชอบพอ
นั่นจึงมีการจัดให้โดพามีนเป็นสารเคมีแห่งรัก หรือ Chemicals
of love ซึ่งมีผู้เคยวิจัยออกมาแล้วว่า
โดพามีนนี้มีผลเกี่ยวกับการเลือกคู่หรือจับคู่จริง ๆ
และเช่นเดียวกัน ในร่างกายหลาย ๆ
คนอาจมีการหลั่งสารโดพามีนออกมาน้อยเกินไป หรือเซลล์สมองส่วนที่สร้างโดพามีนตาย
ซึ่งพบได้ในผู้สูงอายุ นั่นจึงทำให้ผู้สูงอายุบางคนมีอาการทางระบบประสาท คือ
โรคพาร์กินสัน ที่จะมีอาการมือไม้สั่น เกร็ง เคลื่อนไหวช้า
เพราะโดพามีนเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายนั่นเอง
ตรงกันข้าม
หากมีสารโดพามีนหลั่งออกมามากเกินไป ก็ทำให้เป็นคนคิดเร็ว สมองมีการตอบสนองดี
สั่งการเร็ว อาจทำให้เป็นคนหุนหันพลันแล่น ไฮเปอร์ หรือก้าวร้าวได้
และถ้ายิ่งมีมากจนเกินขีด คนนั้นอาจกลายเป็นคนหวาดระแวง บ้าคลั่ง
มีอาการป่วยทางจิต
เพราะสารนี้จะไปกระทบกับสมองส่วนฟรอนทัลที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด
การเรียนรู้ ความจำ
ซึ่งจากการทดสอบผู้ป่วยโรคจิตเภทก็พบว่ามีสารโดพามีนในสมองมากกว่าคนปกติ
วิธีรักษาความสมดุลของโดพามีนก็คือ
พยายามรับประทานอาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วเหลือง อาหารทะเล
อัลมอนด์ เมล็ดธัญพืช กล้วย แอปเปิล
เพราะโดพามีนผลิตมาจากกรดอะมิโนไทโรซีนที่มีในโปรตีนนั่นเอง จะช่วยให้สมองมีพลัง
ตื่นตัว รู้สึกกระฉับกระเฉง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น